ภาพรวมสตาร์ทอัพปัญญาประดิษฐ์ระดับท็อปในประเทศจีน

จากปี 2015 จนถึงปี 2017 ที่ผ่านมา สตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์มากกว่า 450 แห่งได้รับเงินระดมทุนเป็นมูลค่ากว่าสามหมื่นล้านหยวน (ราวๆ 4.8 พันล้านดอลลาร์ หรือ 154,344 ล้านบาทตามอัตราค่าเงินปี 2018) แม้ว่าในปี 2017 จะมีรอบการระดมทุนที่ลดลง แต่ยอดระดมทุนในปีนั้นก็ยังคงมีมูลค่ามากกว่าสองเท่าของยอดรวมการระดมทุนในปี 2015 และปี 2016 รวมกันเสียอีก ในการระดมทุน 64 ครั้ง สตาร์ทอัพสามารถรวบรวมเงินทุนได้ 15-150 ล้านเหรียญสหรัฐและมีห้าครั้งที่ระดมทุนได้สูงที่สุด รวบรวมได้ถึง 150 ล้านเหรียญสหรัฐ

บริษัทไหนก้าวไกลที่สุด?

ในเดือนกรกฎาคมปี 2017 ได้มีข่าวประกาศออกมาว่าบริษัทจากปักกิ่งชื่อว่า SenseTime ได้มียอดระดมทุนใน Series B มากถึง 410 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งทำให้บริษัทนี้กลายเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ระดับพันล้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน นอกจากนี้ ในวันที่ 31 ตุลาคม บริษัทนามว่า Megvii ซึ่งเป็นบริษัทที่มีการทำงานเกี่ยวกับระบบจดจำใบหน้า (facial regcognition) ได้รับเงินลงทุนเป็นจำนวน 360 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการลงทุนใน Series C บริษัทได้รับเงินลงทุนสูงสุด ด้วยจำนวนเงินสูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือได้ว่าเป็นการทำลายสถิติการลงทุนทั้งหมดในปีซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 460 ล้านเหรียญสหรัฐ

และยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ในวันที่ 9 เมษายน 2018 SenseTime ได้รายงานอย่างเป็นทางการว่า บริษัทมีเงินลงทุนไต่ขึ้นไปสูงถึง 600 ล้านดอลลาร์ในกองทุน Series C จากการลงทุนของกลุ่ม Alibaba ตามมาด้วย Teemasek, Suning และบริษัทคู่ค้าอื่นๆ SenseTime ได้ทำลายสถิติโลกอีกครั้งด้วยการเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก

แล้วยังมีบริษัทไหนอีกบ้างที่เติบโตสูงเกินคาด?

นอกจาก SenseTime และ Megvii แล้ว ยังมีบริษัทปัญญาประดิษฐ์ของจีนอีกสองบริษัทที่ได้รับเงินระดมทุนในหนึ่งรอบมากกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ หนึ่งในนั้นคือ iCarbonX ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับชีวเทคโนโลยี ที่ก่อตั้งในเดือนเมษายนปี 2016 โดย Dr. Jun Wang ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้บริหารเก่าของ Beijing Genomics Institute บริษัทมีเงินลงทุนจาก Tencent Holdings สูงถึง 150 ล้านดอลลาร์ และได้กลายมาเป็นยูนิคอร์นแห่งวงการสตาร์ทอัพในชั่วข้ามคืน

iCarbonX วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยจัดการสุขภาพของลูกค้า บริษัทมีแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการจัดการสุขภาพที่ชื่อว่า Meum ที่สร้างคำแนะนำเรื่องสุขภาพด้านต่างๆให้ผู้ใช้แต่ละคนอย่างเป็นส่วนตัว เช่น คำแนะนำด้านการออกกำลังกาย ด้านการบำรุงผิวพรรณ ด้านโภคภัณฑ์ และมีการติดตามข้อมูลผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง

แผนใหญ่สำหรับปี 2018

หากบริษัทสตาร์ทอัพหยุดรับการลงทุนเป็นเวลาสองปีอาจจะทำให้คนลืมชื่อบริษัทไปได้ จากการสำรวจจึงพบว่า บริษัทสตาร์ทอัพโนเนมหลายบริษัทที่ประกาศการลงทุนในปี 2015 จะคอยอัพเดทโปรไฟล์ตัวเองเสมอ และต่างก็มีแผนใหญ่สำหรับปี 2018 กันทั้งนั้น

Emotibot Technologies Limited ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่ทำเกี่ยวกับแชทบอทปัญญาประดิษฐ์ ได้สะสมเงินลงทุน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2015 และสะสมเงินทุนมาเรื่อยๆจนสามารถมีเงินในกองทุนถึง 44 ล้านดอลลาร์ บริษัทได้มีการพัฒนาบริการ personal service bot ที่มีชื่อว่า XiaoYing นอกจากนี้ยังพัฒนา Finbot ที่ช่วยพัฒนาการจัดการด้านการเงินและยังพัฒนา Service bot สำหรับการบริการลูกค้าอีกด้วย บริษัทจะมีการเปิดตัว บอทผู้ช่วยด้านการช้อปปิ้งที่มีชื่อว่า Sue ในงาน CES2018

บริษัท D-Ear Technologies ทำเงินจาก Series A ของปี 2015 เป็นมูลค่า 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทได้สร้าง c-SMB ซึ่งเป็นผลงานด้านการรู้จำเสียงพูด (core speech and voiceprint recognition)  และได้ใช้กับระบบความปลอดภัยสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มธุรกรรมทางการเงินในมือถือของ China Construction Bank และระบบยืนยันตัวตนของโรงแรม Vanke มีรายงานว่า D-Ear จะปิดการระดมทุนในปี 2018 ด้วยจำนวนเงิน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สตาร์ทอัพด้านหุ่นยนต์ Dorabot ได้ปิดรอบการระดมทุน Series A ที่ได้รับทุนจาก Yunfeng Capital แต่ไม่เปิดเผยตัวเลขออกมา บริษัทใช้ประโยชน์จากระบบประมลผลภาพด้วยคอมพิวเตอร์ในการสแกนข้อมูล เรียงลำดับข้อมูล และระบุที่ตั้ง นอกจากนี้ บริษัทยังออกแบบระบบ path planning สำหรับ AGV และสำหรับการวางแผนการเคลื่อนที่ (motion planning) อีกด้วย มีแหล่งข่าวให้ข้อมูลมาว่า ในปี 2018 นี้ Dorabot เองก็จะประกาศเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทด้านโลจิสติกส์และบริษัทด้านการพาณิชย์ออนไลน์ชั้นนำ

ในทั้งหมดนี้ ก็มีบางบริษัทที่โชคไม่ดีอยู่บ้าง ยกตัวอย่างเช่น Miojo Travel บริษัทที่สร้างแพลทฟอร์มวางแผนการท่องเที่ยวด้วยปัญญาประดิษฐ์ ได้ให้ข้อมูลว่า บริษัทจะย้ายไปในตลาด B2B แทน หลังจากที่ล้มเหลวในตลาด B2C

รายชื่อบริษัทสตาร์ทอัพปัญญาประดิษฐ์ของจีน ที่มีเงินทุนสูงที่สุดในปี 2015 ถึง 2017

Horizon Robotics

มูลค่าการระดมทุนช่วงปี 2015 – 2017 : 121 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รอบสุดท้ายที่มีการระดมทุน : Series A+, 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ความคืบหน้าในปี 2017 : บริษัทเปิดตัวระบบสถาปัตยกรรมเกาส์ (Gauss-architecture) ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ประเภท computer vision เป็นหน่วยประมวลผลของยานพาหนะชื่อ Journey และกล้องอัจฉริยะที่มีชื่อว่า Sunrise

แผนสำหรับปี 2018 : เปิดตัวหน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ Bernoulli ที่สามารถประยุกต์การใช้งาน sparse และ binary networks เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงและการประมวลผลข้อมูลรูปภาพ 1080p@30fps แบบสี่ช่องทางพร้อมๆกัน และการใช้หลักการเซนเซอร์หลายตัวประมวลผลข้อมูลเดียวกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้น (multiple sensor fusion)

CloudWalk Technology

มูลค่าการระดมทุนช่วงปี 2015 – 2017 : 117.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รอบสุดท้ายที่มีการระดมทุน : Series B, 78.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ความคืบหน้าในปี 2017 :  มีรายได้ประจำปีมากถึง 62.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และถูกส่งชื่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็ค “Internet+” ที่จัดตั้งโดย National Development and Reform Commission (NDRC) ในประเทศจีน

แผนสำหรับปี 2018 : หันมาพัฒนาการทำงานด้านความปลอดภัยและการป้องกันระบบ

Cambricon Technologies

มูลค่าการระดมทุนช่วงปี 2015 – 2017 : 103.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รอบสุดท้ายที่มีการระดมทุน : Series A+, 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ความคืบหน้าในปี 2017 : เปิดตัวระบบประมวลผลการเรียนรู้เชิงลึก (Deep learning processors) จำนวนสองตัว โดยระบบประมวลผลตัวแรกคือ Cambrian-1H8 ที่เปิดตัวในไตรมาสแรก กับ Cambrian-1H16 ที่เปิดตัวในไตรมาสที่สามของปี 2017 จากนั้นได้นั้นร่วมหุ้นส่วนกับ Huawei และเปิดตัวระบบประมวลผลตัวที่สองคือ ชิปเคลื่อนที่รุ่นใหม่ที่มีระบบประมวลผลแบบ Neural Processing Unit (NPU) ชื่อ Kirin 970

ความคืบหน้าในปี 2018 : เปิดตัวชิป Cambrian-1M ใช้สำหรับรถยนต์ไร้คนขับ

Beijing Orion Star Technology

มูลค่าการระดมทุนช่วงปี 2015 – 2017 : 93.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รอบสุดท้ายที่มีการระดมทุน : Series A, 40.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ความคืบหน้าในปี 2017 : เปิดตัวระบบโต้ตอบทางไกลด้วยเสียง (remote voice interactive system) ที่บริษัทได้ทำการพัฒนาด้วยตนเอง หลังจากนั้นได้ร่วมหุ้นส่วนกับแพลตฟอร์มออดิโอสตรีมมิ่งยอดนิยมของจีนที่ชื่อว่า Ximalaya.com และเปิดตัวลำโพงอัจฉริยะที่มีชื่อว่า Xiao Ya

แผนสำหรับปี 2018 : ผลิตอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์จำนวนมากออกสู่ตลาด

TuSimple

มูลค่าการระดมทุนช่วงปี 2015 – 2017 : 72.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รอบสุดท้ายที่มีการระดมทุน : Series C, 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ความคืบหน้าในปี 2017 : ทดลองการขับขี่ระยะไกลโดยใช้รถบรรทุกไร้คนขับที่พัฒนาในระดับที่ 4

แผนสำหรับปี 2018 : ทดลองการขับขี่ระยะไกลในประเทศจีนโดยใช้รถบรรทุกไร้คนขับจำนวน 50 คัน และทำการทดลองในสหรัฐอเมริกาด้วยรถบรรทุกไร้คนขับจำนวนหลายร้อยคัน เพื่อปูทางสู่บริการการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกไร้คนขับในจีนและอเมริกา

YITU Technology

มูลค่าการระดมทุนช่วงปี 2015 – 2017 : 70.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รอบสุดท้ายที่มีการระดมทุน : Series C+, ไม่ระบุจำนวนเงินระดมทุน

ความคืบหน้าในปี 2017 : เปิดตัวแพลตฟอร์มระบบปัญญาประดิษฐ์สำหรับคลินิก โดยมีวิธีแก้ปัญหาทางการแพทย์และอุปกรณ์อย่างครบวงจร อีกทั้งยังบริษัทนี้ลงทุนในบริษัท AccutarBio และ บริษัท  ThinkForce อีกด้วย

แผนสำหรับปี 2018 : ขยายตลาดต่างประเทศและสำรวจช่องทางธุรกิจด้านการรักษาความปลอดภัย

ThinkForce

มูลค่าการระดมทุนช่วงปี 2015 – 2017 : 70.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รอบสุดท้ายที่มีการระดมทุน : Series A, 70.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ความคืบหน้าในปี 2017 : ประสบความสำเร็จในการระดมเงินทุน

แผนสำหรับปี 2018 : เปิดตัวชิปที่มีสถาปัตยกรรมตัวประมวลผลหลายตัว (Manycore) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ระบบ AI cloud virtualization เพื่อกำหนดการทำงานในขั้น chip-level

Unisound

มูลค่าการระดมทุนช่วงปี 2015 – 2017 : 62.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รอบสุดท้ายที่มีการระดมทุน : การลงทุนด้านกลยุทธ์ (Strategic investment), 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ความคืบหน้าในปี 2017 : มีรายได้ในรอบปีประมาณ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปิดตัวระบบปฏิบัติการปัญญาประดิษฐ์ชื่อ AIOS และเปิดตัวระบบควบคุมด้วยเสียงที่มีชื่อว่า Pandora และบริษัทนั้นได้ก่อตั้งร่วมกับบริษัท Ping An Good Doctor เพื่อขยายธุรกิจไปสู่การบริการด้านสุขภาพเคลื่อนที่

แผนสำหรับปี 2018 : ให้ความสนใจในงานวิจัยและการพัฒนาชิปปัญญาประดิษฐ์ชื่อ UnoOne เพื่อการพัฒนาและประโยชน์ด้านพาณิชย์ของระบบคลาวด์

Rokid

มูลค่าการระดมทุนช่วงปี 2015 – 2017 : 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รอบสุดท้ายที่มีการระดมทุน : Series B, 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ความคืบหน้าในปี 2017 : ร่วมหุ้นส่วนกับ Aliyun และเปิดตัวแพลตฟอร์มบริการครบวงจรเกี่ยวกับการใช้คลาวด์ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ปลายทาง โดยระบบคลาวด์จะใช้เป็นระบบเบ็ดเสร็จสำหรับการโต้ตอบด้วยเสียงโดยมีฐานของระบบคลาวด์เป็น Linux และ ระบบปฏิบัติการแอนดรอย บริษัทยังได้เปิดตัว Rokid Glass ซึ่งเป็นแว่นตาที่มีระบบ AR (Augmented Reality) รวมถึงระบบจดจำใบหน้าและเสียงอีกด้วย

แผนสำหรับปี 2018 : เพิ่มการผลิต Rokid Glass ให้เข้าสู่การผลิตแบบ mass production

Yixue Education

มูลค่าการระดมทุนช่วงปี 2015 – 2017 : 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รอบสุดท้ายที่มีการระดมทุน : Angel, 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ความคืบหน้าในปี 2017 : เป็นพาร์ทเนอร์กับโรงเรียนกว่า 500 โรงเรียนในเมืองที่อยู่ตามหัวเมืองระดับเทียร์ 2-4 ของประเทศจีน และประสบความสำเร็จในการโปรโมทระบบการเรียนอัจฉริยะที่มีชื่อว่า Songshu AI

แผนสำหรับปี 2018 : พัฒนาระบบการเรียนประยุกต์สำหรับการเรียน k-12 ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์

สตาร์ทอัพ 64 อันดับแรกที่มีการระดมทุนสูงสุดในช่วง 15-150 ล้านเหรียญสหรัฐ

และเตรียมตัวพบกับคอร์สที่ทำให้คุณเป็นดาวตัวจริง

PRACTICAL AI DEVELOPMENT BOOTCAMP

จะช่วยเปิดมุมมองพัฒนาการของเทคโนโลยีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ AI
ให้แก่ผู้เรียนในหลายๆแง่มุม พร้อมทั้งให้ผู้เรียนได้ฝึกพัฒนา AI เพื่อใช้งานได้จริง

เรียนจบแล้วทำงานได้จริง

รายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครที่นี่Ai