Programmer Interview by สมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย ตอนที่ 2 – อานนท์ ปุ้ยตระกูล (ปี 3 ม.มหิดล)

1. ช่วยกรุณาแนะนำตัวคร่าวๆให้พวกเรารู้จักด้วยครับ (ชื่อ ครอบครัว การศึกษา การทำงาน)

– ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีครับ ผมชื่อ อานนท์ ปุ้ยตระกูล หรือเรียกว่า หนึ่งก็ได้ครับ ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ปี 3 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยมหิดล นอกจากจะเรียนอยู่ และตอนนี้ยังเป็น Blogger เขียน Blog ส่วนตัวไปด้วยครับ (arnondora.in.th) จะเขียนเกี่ยวกับพวก Programming และ เรื่องราวที่ผมได้ประสบมา แต่จะเป็นเรื่อง Programming ซะส่วนใหญ่อ และตอนนี้พึ่งได้เป็น Microsoft Student Partner FY17 ในสาย Technical Evangelist อีกด้วย ส่วนรางวัลที่ได้มาล่าสุด ก็จะเป็น รางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน Microsoft Imagine Cup Thailand 2016 หมวด Innovation

2. ทำไมถึงมีความชอบทางด้านโปรแกรมมิ่ง อะไรเป็นจุดเริ่มต้นหรือแรงบันดาลใจ
สำหรับจุดเริ่มต้นของผม มันเกิดขึ้นเมื่อตอนสมัยประถมที่ได้มีโอกาสลองเขียนโปรแกรมง่าย ๆ อย่างที่เราน่าจะรู้จักกันในชื่อ Hello World ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากที่สามารถส่งให้คอมพิวเตอร์มันแสดงข้อความ Hello World ขึ้นมาได้ ให้อารมณ์เหมือนเราเป็นพ่อมดที่เสกอะไรก็ได้ขึ้นมาบนคอมพิวเตอร์ เลยอยากที่จะให้มันทำได้มากกว่านี้ เลยเป็นที่มาที่ทำให้ผมฝึกการเขียนโปรแกรม จนกระทั่งเหมือนทุกวันนี้ เพราะโปรแกรมง่าย ๆ อย่าง Hello World

3. คุณมีหลักการในการพัฒนาตนเองอย่างไรถึงได้ประสบความสำเร็จในสายงานนี้

หลักการพัฒนาตัวผมเองที่ใช้อยู่คือ การลองกับของจริง เวลาที่ผมจะเรียนอะไรใหม่ ๆ วิธีที่ผมใช้คือ อ่านแล้วลองทำตามไปเรื่อย ๆ แล้วพยายามเข้าใจถึงขั้นตอนและธรรมชาติของมัน และสุดท้ายหลังจากที่เราได้ลองเล่นมาสักพักแล้ว ให้เราลองตั้งปัญหาขี้นมาสักอย่างนึง แล้วลองใช้สิ่งที่เราได้ลองศึกษามาแก้ปัญหานั้นดู มันก็จะทำให้เราได้มีความมั่นใจและเก็บประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น

เช่น ผมเรียน Laravel ก่อนอื่น ผมก็ลองเข้าไปอ่านใน Document และลองทำตามไปเรื่อย ๆ พอทำไปสักพักเริ่มมั่นใจ แล้วผมจึงสร้างโจทย์ขึ้นมา ตอนนั้นเป็น Web App ที่ใช้เขียน Note ที่เราจะต้องใช้ทักษะใน Laravel ที่เราได้ลองศึกษามาทำดู ว่าต้องเขียน Logic ตรงไหน หรือวางอะไรตรงไหน

4. ในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่าน เล่นเทคโนโลยี หรือ library อะไรอยู่ ช่วยแนะนำคร่าวๆให้ชาวโปรแกรมเมอร์ได้มั้ยครับ
ช่วงสองเดือนที่ผ่านมาก็เป็นช่วงปิดเทอมพอดี เลยทำให้ได้เล่นอะไรหลาย ๆ อย่างอยู่ครับ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องทางฝั่ง Web Technologies ซะมากกว่า เพราะช่วงนี้โดนงานที่เป็นเว็บเยอะมาก ๆ เรื่องที่ได้มาลองเล่นก็จะเป็น Laravel ที่เป็น PHP Framework และ พวก Preprocessor ทางฝั่งเว็บอย่างเช่น SCSS ที่เป็นภาษาที่ใช้เขียน Stylesheet และ Blade ที่เป็น Template Engine บน Laravel

5. ช่วยแชร์ประสบการณ์ทำงานโปรเจคต่างๆหน่อยครับ โปรเจคที่ยากที่สุดที่เคยทำมาคืออะไร และยากที่จุดไหน
ที่ยากที่สุดน่าจะเป็น MathEngine ที่เป็น Library ที่รวม Function ทางคณิตศาสตร์เอาไว้ เพื่อให้โปรแกรมเมอร์สามารถเรียกไปใช้งานได้อย่างง่ายดาย สิ่งที่ยากคือ มันคือคณิตศาสตร์ทั้งนั้นเลย ซึ่งเป็นอะไรที่ผมไม่ถนัด และไม่ชอบเลยจริง ๆ เลยทำให้ผมรู้สึกว่ามันคือ อุปสรรค์ที่ยากมากๆ และเป็นอะไรที่ท้าทายตัวเองมาก ๆ

6. โปรเจคที่ภูมิใจที่สุดที่เคยทำมาคืออะไร และเพราะอะไรถึงภูมิใจที่สุด
คิดว่าน่าจะเป็น MathEngine เหมือนข้อที่แล้ว ลักษณะของการปล่อยจะเป็นกึ่ง Open Source ที่ทำให้คนที่ใช้จะเป็นลักษณะของการ Invite กันซะมากกว่า เลยทำให้ไม่เป็นที่รู้จักเป็นวงกว้างมากนัก แต่สิ่งที่ผมได้กลับมาคือ ความสุข ที่ได้เห็นคนเอา Library ของเราไปสร้างออกมาเป็น Application ดี ๆ ออกมามากมาย ทั้งในด้านของการศึกษา และทางธุรกิจ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่ตอนนี้โปรเจ็คนี้ได้ปิดตัวไปเมื่อปี 2014 เนื่องจากผมไม่มีเวลามากเหมือนกับตอนมัธยม

7. คุณมีโปรแกรมเมอร์ที่เป็นไอดอลในใจมั้ยครับ ถ้ามีคือใคร และเพราอะไร
มีครับ เขาชื่อว่า Mark Zuckerberg ที่เป็นผู้สร้าง Facebook เพราะว่า เขาเป็นคนที่ผมชอบมาก เพราะเขาเป็นที่เปลี่ยน วิธีการที่เราติดต่อสื่อสารกัน เป็นเหมือนบุคคลแห่งศตวรรษสำหรับผมเลยก็ว่าได้

8. มาถึงเรื่องการทำงานในองค์กรกันบ้าง วัฒนธรรมองค์กรในฝันของคุณเป็นอย่างไร
องค์กรในฝันของผมจะเป็นองค์กรที่ ใช้ความคิดเห็นของทุกคน ไม่ว่าเขาจะอายุเท่าไหร่ โดยไม่ถือทิฐิของอายุ หรือเขาเป็นใคร เป็นตัวขับเคลื่อนให้องค์กรเดินต่อไปได้ เพราะผมมองว่า ความคิดเห็นของทุกคนเป็นสิ่งสำคัญ บางทีการที่เราให้คนอื่นลองมาช่วยกันระดมความคิดเห็น จะทำให้เราเห็นมุมมองของการแก้ปัญหาที่กว้างขึ้นได้

9. ช่วยให้คำแนะนำสำหรับ novice ที่ไม่เคยเขียนโปรแกรมมาก่อนและสนใจจะเข้ามาในวงนี้หน่อยครับ ว่าจะต้องวางตัวอย่างไร คุณสมบัติอะไรที่ควรมี ถึงจะทำให้ประสบความสำเร็จในวงการนี้ได้
สำหรับคนทีไม่เคยเขียนโปรแกรมมาก่อน พอมาเรียนครั้งแรก อาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ยากอยู่พอสมควร ผมเลยอยากจะบอกว่า อย่าท้อ การฝึกเขียนโปรแกรมมันไม่ต่างกับการฝึกทักษะอื่น ๆ ที่ต้องใช้ความพยายามเลย ขอเพียงแค่ เราตั้งใจ, กระหายความรู้ และ จงเป็นผู้ให้ เท่านี้ก็จะประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะวงการนี้ หรือวงการไหน ๆ

10. และอีกกลุ่มนึงครับสำหรับกลุ่มโปรแกรมเมอร์ที่พอมีพื้นฐานแล้วอยากจะ raise the bar ของตัวเองไปอีกควรจะต้องทำตัวอย่างไร
แนะนำให้ลอง ออกไปหาปัญหา แล้วนำปัญหานั้นมาแก้ไขจริง ๆ น่าจะเป็นอะไรที่ดีครับ มันทำให้เราสามารถ นำพื้นฐานที่เรารู้มา มาประยุกต์ใช้กับโลกแห่งความเป็นจริง ทำให้เราได้ประสบการณ์หรือได้ความรู้ใหม่ ๆ กลับไปเยอะมากกว่าที่เราคิดซะอีก

11. สำหรับเรื่องการพัฒนาตนเอง พอจะแนะนำหนังสือทางด้านโปรแกรมมิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์ และควรต้องอ่านให้แก่ชาวโปรแกรมเมอร์ได้มั้ยครับ
ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่สมาธิไม่ค่อยอยู่กับตัวสักเท่าไหร่ การอ่านหนังสือจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก แต่วิธีที่ผมใช้คือ การไปหาคอร์ส เรียนออนไลน์แทน ซึ่งเว็บที่ผมใช้เรียนคือ Udacity ที่จะมีคอร์สฟรีให้เราเลือกเรียนกัน และ เราสามารถเสียเงินเพื่อสอบและได้ใบ Nanodegree มาได้ ส่วนอีกเว็บคือ Udemy ที่เป็นเว็บที่มีคอร์สเรียนออนไลน์เยอะมาก แต่ส่วนใหญ่จะเสียเงิน แต่ในราคาที่ไม่แพงมาก สามารถเอื้อมถึงได้ง่าย และเข้าใจได้ง่ายพอสมควร

13. คำถามนี้ขำๆนะครับ หากไม่เขียนโปรแกรมจะไปประกอบอาชีพอะไร
คงไป ขายข้าวมันไก่ครับ ฮ่า ๆ เพราะสามารถเข้าถึงคนได้เยอะกว่าอาหารประเภทอื่น ๆ ใคร ๆ ก็ทานได้

14. อยากให้วงการโปรแกรมเมอร์ไทยเป็นอย่างไรในตอนนี้และในอนาคต
สำหรับผม ผมมองอยากให้อนาคต เรามีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนความรู้กันมากขึ้น จนเป็นชุมชนของนักพัฒนาในไทยที่เหนียวแน่น เข้มแข็ง และพร้อมที่จะพัฒนาโปรแกรมเมอร์หน้าใหม่ ๆ สู่ตลาดโลกในอนาคต

15. และคำถามสุดท้ายครับ อยากจะฝากอะไรส่งท้ายแก่ผู้อ่านครับ
ผมขอทิ้งท้ายด้วยคำพูดของ Steve Jobs ที่ว่า “Everybody in this country should learn to program a computer because it teaches you how to think.” ผมอยากจะเชิญชวนให้คนที่ไม่เคยเขียนโปรแกรม ให้มาลองและฝึกดูสักครั้ง มันสอนอะไรเรามากกว่าที่เราคิดเยอะมาก ไม่จำเป็นต้องเก่งมากก็ได้ แต่มันจะสอนวิธีคิดให้กับเรา ที่สามารถเอาไปใช้ได้กับหลาย ๆ อย่างในชีวิตของเรา